ลูกผสมสุดแมน..แบนด็อก (ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ) - ลูกผสมสุดแมน..แบนด็อก (ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ) นิยาย ลูกผสมสุดแมน..แบนด็อก (ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ) : Dek-D.com - Writer

    ลูกผสมสุดแมน..แบนด็อก (ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ)

    สัตว์หน้าขนคน(เจอ)อันตราย

    ผู้เข้าชมรวม

    290

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    290

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 เม.ย. 64 / 15:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    "แบนด็อก" (Bandog) คือ สุนัขพันธุ์ผสมระหว่างพันธุ์พิตบูลเทอร์เรียและบลูมาสทิฟฟ์หรืออาจจะนำไปผสมกับสายพันธุ์ใดใดก็ตาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขนาดของร่างกายให้ใหญ่โตขึ้นและต้องการให้มีพละกำลังที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อความได้เปรียบเวลาเข้าปะทะกับเป้าหมายหรือคู่ต่อสู้ รวมทั้งเพื่อการนำไปเล่นกีฬาหรือล่าสัตว์เช่นหมูป่าหรือแม้กระทั่งเอาไว้เฝ้าบ้านก็ตาม ซึ่งการนำพิตบูลไปผสมกับหมาพันธุ์อื่นนั้นถือเป็นข้อห้ามอย่างร้ายแรงถึงแม้ว่าจะทำการผสมได้และให้มีไว้เลี้ยงได้แต่ห้ามมิให้จำหน่ายหรือขยายพันธ์ุต่อเพื่อประโยชน์อื่นใดก็ตาม โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เคยมีการต่อต้านและแบนการผสมของสายพันธุ์นี้ ซึ่งในประเทศไทยเรานั้นมีกฎหมายที่ห้ามนำเข้าก็จริงแต่ยังไม่มีกฎหมายห้ามเพาะพันธุ์หรือห้ามจำหน่ายอย่างจริงจัง ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีคนนิยมเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เช่นนี้กันอยู่มาก

    Bite

    1. สัญชาตญาณของการเป็นจ่าฝูง (Leader)

        จากกรณีที่มีข่าวว่าเจ้าไจแอนท์หมาพิตบูลพันธุ์ผสมแบนด็อกปฏิบัติการจู่โจมเจ้าของผู้ชายผู้ที่ฟูมฟักเลี้ยงดูมันมาตั้งแต่ยังเล็กขณะที่กำลังนอนหลับอยู่โดยกัดบริเวณลำคอจนเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและล่าสุดก็ได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยก่อนหน้านี้เจ้าไจแอนท์ก็ได้เกิดอาการตกใจขณะเจ้าของพาไปเดินเล่นจึงกัดมือเจ้าของผู้หญิงทำให้ต้องเย็บถึงเก้าเข็มซึ่งอาจเป็นสัญญาณดุร้ายบางอย่างที่แสดงออกมาก่อนล่วงหน้าโดยยังเป็นที่สงสัยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นและอะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้เจ้าไจแอนท์ถึงกับทำร้ายเจ้าของทั้งสองคนอย่างดุร้ายแบบนั้นทั้งที่ได้รับการเลี้ยงดูอุ้มชูฟูมฟักและดูแลประคบประหงมเป็นอย่างดีมาตั้งแต่ยังเล็กจนถึงกับนำมานอนด้วยกัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าแบนด็อกตัวนี้ได้ใจจากความเอ็นดูรักใคร่ของเจ้าของจึงมีความต้องการที่จะเปลี่ยนจากการเป็นผู้ถูกดูแลและถูกควบคุมมาเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่างเสียเองโดยการเป็นจ่าฝูงของบ้านที่เป็นอาณาเขตของมัน Serious

    2. วิธีการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้อง! (Mistake)

         หลายคนคงคิดว่าการพาเจ้าแบนด็อกที่มีขนาดตัวที่ใหญ่แข็งแรงและเต็มไปด้วยพละกำลังและมีใบหน้าท่าทางอย่างน่าเกรงขามออกไปยังสังคมภายนอกบ้านนั้นไม่เหมาะสมและเป็นอันตรายเพราะอาจยากต่อการควบคุมและเกรงว่าจะไปทำร้ายผู้อื่นจึงเลือกที่จะขังหรือล่ามหรือกักบริเวณไว้เพื่อความปลอดภัยจะได้ไร้ซึ่งความเสี่ยงต่อการรับผิดชอบต่อความเสียหายหลายอย่างทั้งชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่น ทั้ง ๆ ที่สุนัขนั้นเป็นสัตว์สังคมที่อยากพบเจอผู้คนและสุนัขตัวอื่น ๆ ตามธรรมชาติและอยากใช้ชีวิตในแบบอิสระอย่างไร้การกักขัง ซึ่งพฤติกรรมการเลี้ยงสุนัขแบบนี้จะส่งผลให้สุนัขนั้นเกิดความระแวงต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวและเต็มไปด้วยความเก็บกดอย่างมีความเครียดสะสมดั่งระเบิดเวลาที่นับถอยหลังหรือเขื่อนใหญ่ที่สะสมปริมาณน้ำไว้จนเปี่ยมล้นรอวันร้าวแตก หากสุนัขตัวไหนที่ไม่ดุไม่มีสัญชาตญาณของความเป็นผู้นำก็จะก้มหน้ายอมรับชะตากรรมแบบนั้นไปอย่างไม่มีปัญหา แต่สุนัขตัวใดที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำโดยธรรมชาติและมีสัญชาตญาณดิบหรือมีความดุในตัวก็จะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งชีวิตอิสระที่ดีกว่าอย่างรุนแรง ต่อเมื่อได้รับอิสรภาพแล้วสุนัขตัวนั้นก็จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวดุร้ายและถึงขั้นทำอันตรายต่อเจ้าของผู้เลี้ยงดูในที่สุดเพื่อแสดงความเป็นจ่าฝูงให้ได้มาซึ่งการยอมรับในพลานุภาพและการเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง

    exercise

    3. รู้วิธีการจัดการอย่างถูกต้อง (ฺTakecare)

        นอกจากแบนด็อกจะเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่กว่าพิตบูลเพราะมีลักษณะตัวใหญ่กว่าและมีพละกำลังมากกว่าแล้ว หากจะนำมาเลี้ยงเพื่อเป็นหมาเฝ้าบ้านหรือเพื่อการอื่นใดก็ตามก็ไม่ควรเลี้ยงอย่างตามใจประคบประหงมเหมือนเลี้ยงเด็กโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำสุนัขชนิดนี้มานอนด้วยกันอันเป็นพฤติกรรมที่ผิดมหันต์ ที่สำคัญคือต้องเลี้ยงดูสุนัขแบบให้มันรู้ว่าเจ้าของคือจ่าฝูงตัวจริงจึงจะสามารถควบคุมสุนัขให้อยู่ในโอวาทได้ด้วยคำสั่งที่ได้รับการฝึกฝนมาเพราะสายพันธุ์แบนด็อกจะมีพฤติกรรมคล้ายกับพันธุ์พิตบูลซึ่งในสมัยก่อนจะถูกเลี้ยงไว้เพื่อล่าสัตว์เเละปกป้องอาณาเขต ดังนั้นเจ้าของต้องมีเวลาเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดแบบอยู่ในกรอบของความเหมาะสม นอกจากนี้ต้องมีการพาเดินหรือวิ่งออกกำลังกายในพื้นที่กว้างที่เพียงพอเพื่อให้สุนัขได้ใช้พละกำลังตามธรรมชาติที่อาจมีการลากยางรถยนต์หรือให้ทำการขุดดิน เพราะสุนัขชนิดนี้ชอบขุดคุ้ยดินเป็นอย่างมาก ตลอดจนต้องมีทุนสำรองเพื่อรองรับการเจ็บป่วยของสุนัขที่ค่อนข้างมีค่ารักษาพยาบาลสูง เพื่อให้สุนัขมีความพอใจที่ได้อยู่ในความดูแลของผู้เป็นเจ้าของอย่างมีความสุขโดยปราศจากปัญหาตามมา

    อนึ่ง การเลี้ยงสุนัขโดยขังให้อยู่ในสภาพห้องหรือภายในบริเวณที่คับแคบมีอากาศอบอ้าวไม่ถ่ายเทและถูกล่ามโซ่ไว้ตลอดเวลาอย่างไร้อิสรภาพโดยไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามอุปนิสัยของสายพันธุ์นั้น นอกจากจะทำให้สุนัขเกิดความเครียดและความกดดันสะสมแล้วการที่สุนัขไม่รู้จักเข้าสังคมภายนอกก็จะทำให้สุนัขนั้นขาดการเรียนรู้และไร้ซึ่งการใช้สัญชาตญาณต่าง ๆ ตามธรรมชาติของการอยู่ร่วมกันในสังคมร่วมกับสุนัขตัวอื่น ๆ หรือสมาชิกคนอื่น ๆ ของครอบครัว หรือคนภายนอกบริเวณบ้านใกล้เรือนเคียงจนอาจทำให้สุนัขสับสนจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรูจนอาจตัดสินใจทำร้ายเจ้าของและคนใกล้ชิด หรือบุคคลอื่นที่พบเจอได้เพราะต้องการในอิสรภาพและความเป็นผู้นำที่แท้จริง ซึ่งเหตุการณ์เศร้าสลดนี้คงเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่กำลังเลี้ยงหรือคิดว่าจะเลี้ยงเจ้าสุนัขแบนด็อกนี้คงต้องคิดใคร่ครวญและไตร่ตรองให้จงดี!

    เรื่องโดย นรชนไท

    เครดิตภาพ

    ภาพปก โดย fjord77 จาก Pixabay

    ภาพที่ 1 โดย 12019 จาก Pixabay

    ภาพที่ 2 โดย fjord77 จาก Pixabay

    ภาพที่ 3 โดย fjord77 จาก Pixabay

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×